หมายเลขการแข่งขัน (Race Bib)
ผู้จัดจะมอบหมายเลขการแข่งขัน (bib) แก่นักกีฬาแต่ละรายเมื่อมีการแสดงหลักฐาน ดังนี้ :
- บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต
- กระเป๋าและอุปกรณ์บังคับทั้งหมด
นักกีฬาจะต้องติดหมายเลขแข่งขันหรือบิ๊บ บริเวณอก หรือท้อง ต้องติดอยู่อย่างแน่นสนิทและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดการแข่งขัน นอกจากนี้ บิ๊บจะต้องอยู่ชั้นบนสุดของเสื้อผ้าเสมอ ไม่อนุญาตให้ติดไว้บริเวณขาหรือกระเป๋าทั้งสิ้น โดยที่ชื่อของผู้แข่งและโลโก้ของสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนรายการจะต้องไม่ถูกปรับแต่งหรือซ่อนไว้ นอกจากนี้ บิ๊บยังเป็นบัตรผ่านสำหรับการขึ้นรถรับส่ง (shuttle bus) จุดบริการ จุดพยาบาล บริเวณพัก ห้องอาบน้ำ จุดรับกระเป๋า จะไม่มีการยึดคืนบิ๊บ ยกเว้นในกรณีที่ปฏิเสธที่จะทำตามการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน แต่ในกรณีที่ออกจากการแข่งขัน บิ๊บจะถูกยกเลิกการใช้งาน
ฝากสัมภาระ/ถุงสำรอง
นักกีฬาสามารถนำสัมภาระ (ยกเว้นของมีค่า) มาฝากได้ที่สนามกีฬาเทศบาลเมืองเบตง (GPS 5.767490, 101.071644) 1 ชั่วโมงก่อนปล่อยตัว และรับคืนภายในเวลา 15:00 น. วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565
วิธีการฝากสัมภาระไปที่จุดบริการ A5 อุุโมงค์ปิยะมิตร : นักกีฬาระยะเบตง 100 จะได้รับถุงสำหรับฝากสัมภาระขนาด 30 ลิตร 1 ถุง พร้อมกับหมายเลขการแข่งขัน ซึ่งจะใช้บรรจุสัมภาระที่นักกีฬาต้องการใช้ที่จุดบริการ A5 อุุโมงค์ปิยะมิตร เมื่อนักกีฬาบรรจุของจำเป็นที่ต้องการฝากและปิดกระเป๋าให้เรียบร้อยและสามารถนำมาฝากได้ 1 ชั่วโมงก่อนปล่อยตัว
วิธีการรับสัมภาระที่ฝากไว้ที่เส้นชัย : สัมภาระที่ฝากไว้ในเส้นทาง จะถูกส่งคืนไปยังสนามกีฬาเทศบาลเมืองเบตง ให้กับนักกีฬา สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนที่แสดงหมายเลขการแข่งขันหรือบิ๊บ โดยจะต้องมารับคืนภายใน 15:00 น. วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 หากเลยเวลาที่กำหนดไว้ นักกีฬาจะต้องมารับคืนจากผู้จัดด้วยตนเองโดยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง
ผู้จัดรับรองว่าจะขนย้ายสัมภาระของนักกีฬาที่ฝากไว้ไปยังเส้นชัย ซึ่งหมายรวมถึงสัมภาระของนักกีฬาที่เลิกแข่งขันและได้แจ้งการเลิกแข่งขัน แต่ผู้จัดไม่สามารถจะรับประกันได้ว่า นักกีฬาจะได้รับสัมภาระคืน ทันทีก่อนการแข่งขันจบ เพราะอาจมีความล่าช้าในการขนส่งสัมภาระกลับคืน
ผู้จัดจะขนส่งเฉพาะสัมภาระที่ใส่ในถุงฝากที่แจกให้โดยผู้จัดเท่านั้น ไม่สามารถใส่ไม้ค้ำ (pole) มาให้ถุงฝากสัมภาระได้ นอกจากนี้ จะไม่มีการตรวจสอบถุงฝากสัมภาระ ดังนั้น จึงไม่รับการโต้แย้งเกี่ยวกับของสูญหายที่เส้นชัย
จุดบริการน้ำและอาหาร
ผู้จัดจะมีบริการอาหารและเครื่องดื่มในเส้นทางสำหรับนักกีฬา ที่จุดบริการจะให้บริการสำหรับเพื่อบริโภคในจุดนั้นๆ ผู้จัดจะเตรียมน้ำเปล่าและเครื่องดื่มให้พลังงานสำหรับเติมขวดน้ำ ถุงน้ำ หรือแก้วพกพาเป็นอุปกรณ์บังคับที่นักกีฬาต้องเตรียมมา นักกีฬาจะต้องดูแลตัวเองก่อนออกจากจุดบริการว่าได้มีอาหารและเครื่องดื่มเพียงพอจนกว่าจะถึงจุดบริการถัดไป
นักกีฬาที่ติดหมายเลขการแข่งขัน หรือบิ๊บ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าถึงการบริการจากจุดบริการได้
คู่มือการแข่งขันและในเว็บไซต์หรือหน้าเพจที่เกี่ยวข้องจะมีระบุว่าจุดบริการใดมีเครื่องดื่มหรืออาหารบริการบ้าง
เช็คพอยต์ (Check Point)
จะมีเช็คพอยต์หรือจุดตรวจเมื่อนักกีฬาเข้ามาถึงยังจุดบริการและจุดตรวจสอบความปลอดภัย และอาจจะมีจุดตรวจสอบที่นอกเหนือจากจุดบริการและจุดตรวจสอบความปลอดภัย ซึ่งจะไม่ได้ประกาศให้ทราบ
สัญลักษณ์บอกทาง (Way-marking)
เพื่อให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นยามวิกาล จะมีการนำวัสดุสะท้อนแสงติดบนเทปสีส้มมาใช้ในการบอกทาง โดยวัสดุนี้จะสะท้อนกับแสงไฟจากไฟส่องทาง
คำเตือน : หากมองไม่เห็นสัญลักษณ์บอกทาง ให้วิ่งกลับทางเดิม
ด้วยนโยบายใส่ใจสิ่งแวดล้อม จะไม่มีการแต้มสีใดๆ บนเส้นทาง
ระยะเวลาที่กำหนด และเวลาตัดตัว (Cut-off)
เวลาที่กำหนดสำหรับเส้นทางทั้งหมดของแต่ละระยะ กำหนดไว้ที่ :
- เบตง 100 30 ชั่วโมง
- เบตง 50 14 ชั่วโมง
- เบตง 25 8 ชั่วโมง
มีเวลาตัดตัวที่กำหนดในจุดตรวจ (check point) หลักแต่ละจุด แจ้งไว้ในคู่มือนักกีฬาและบนเว็บไซต์ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง จะประกาศเวลาการตัดตัวใหม่ผ่านทางเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค อีเมล และข้อความ (SMS)
นักกีฬาต้องเข้าเส้นชัยภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นเวลาที่ทีมผู้จัดคำนวณโดยรวมเวลาพักตามจุดบริการแล้ว และไม่ว่านักกีฬาจะเข้ามาที่จุดบริการเวลาใดก็ตาม นักกีฬาจะต้องออกจากจุดเช็คพอยต์ก่อนเวลาตัดตัวที่กำหนด
นักกีฬาที่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน แต่มีความประสงค์จะวิ่งต่อในเส้นทาง จะต้องคืนหมายเลขการแข่งขันหรือบิ๊บก่อน และจะต้องรับผิดชอบและดูแลตนเอง
ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และความปลอดภัย
มีจุดดูแลความปลอดภัยให้กับนักกีฬาในจุดบริการระหว่างเส้นทาง ซึ่งแต่ละจุดมีวิทยุ โทรศัพท์ ที่ติดต่อกับกองอำนวยการเพื่อดูแลความปลอดภัยได้ (หมายเลข +66 62325 4122 หรือ +66 62345 4122) มีทีมการแพทย์ตลอดระยะเวลาที่กองอำนวยการ
จุดดูแลความปลอดภัยที่ผู้จัดตั้งขึ้นนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่นักกีฬาที่ตกอยู่ในอันตราย โดยให้ความช่วยเหลือด้วยตัวเอง หรืออาจะต้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก
นักกีฬาประสบอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส สามารถติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือได้จาก :
- จุดดูแลความปลอดภัย/จุดบริการ
- ติดต่อกองอำนวยการ
- ขอความช่วยเหลือจากนักกีฬาอื่นเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่
- ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านทางแอพพลิเคชั่น “LiveRun”
นักกีฬาทุกคนต้องให้ความช่วยเหลือแก่นักกีฬาอื่นที่ตกอยู่ในอันตราย และขอความช่วยเหลือไปยังผู้จัด
กรณีที่ไม่สามารถติดต่อกองอำนวยการได้ สามารถขอความช่วยเหลือโดยตรงไปยังบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน (หากอยู่ในเขตพื้นที่บริการเท่านั้น) ผ่านสายด่วน 1669
ระยะเวลาในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและเส้นทางของการแข่งขัน ดังนั้นนักกีฬาควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของอุปกรณ์บังคับที่พกติดตัวไป
แพทย์ นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ และเจ้าหน้าที่การแข่งขันต่างๆ ที่ค้นหาและช่วยชีวิต รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่ผู้จัดมอบหมาย สามารถดำเนินการดังต่อไปนี้ได้ :
- สามารถตัดสิทธิ์นักกีฬาที่ถูกตัดสินว่าไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันต่อได้
- สามารถบังคับให้นักกีฬาใช้อุปกรณ์บังคับใดๆ ได้
- สามารถเคลื่อนย้ายนักกีฬาโดยวิธีการใดๆ ได้ หากนักกีฬาตกอยู่ในอันตราย
- ส่งต่อนักกีฬาผู้ป่วยไปรับการรักษาในโครงสร้างที่ดีกว่า เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการมากกว่า
หากนักกีฬาแจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยชีวิต หมายความว่าจะยอมรับการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่เหล่านั้น และหากแพทย์ตัดสินใจรักษาด้วยการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ นักกีฬาจะต้องออกจากการแข่งขัน มีโรงพยาบาลสนามอยู่ที่เส้นชัยตลอดระยะเวลาของการแข่งขัน นักกีฬาที่มีปัญหาทางการแพทย์ร้ายแรงอาจเข้าพบแพทย์ได้ แพทย์จะดูแลเบื้องต้นตามการวินิจฉัยและขึ้นกับความพร้อมในขณะนั้น นักกีฬาแต่ละคนจะต้องวิ่งในเส้นทางที่กำหนด ไม่เว้นแม้กระทั่งขณะนอนพัก หากนักกีฬาที่สมัครใจออกนอกเส้นทาง จะถือว่าไม่อยู่ภายใต้การรับผิดชอบของทีมผู้จัด
เส้นชัย
เมื่อนักกีฬาเข้าสู่เส้นชัยจะได้รับของที่ระลึก (เหรียญ และเสื้อผู้พิชิต) และอาหารหลังการแข่งขัน
บริเวณพักผ่อนหลังเส้นชัย
บริเวณพักผ่อนหลังเส้นชัยสงวนสิทธิไว้สำหรับนักกีฬาเฉพาะผู้เพิ่งจบการแข่งขันเท่านั้น บริเวณพักชั่วคราวนี้ไม่สามารถนอนพักข้ามทั้งคืนได้ สำหรับนักกีฬาที่จบการแข่งขันแล้วและต้องการพักต่อ จะต้องจองที่พักเองเท่านั้น
การสละสิทธิ์และการส่งกลับ
การถอนตัวจากการแข่งขันจะต้องทำที่จุดบริการ/จุดเช็คพอยต์ (check point) เท่านั้น เว้นแต่ในกรณีที่บาดเจ็บ และต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ หรือแจ้งไปที่แอพพลิเคชั่น LiveRun และติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำกองอำนวยการ
ในการถอนตัวจากการแข่งขันระหว่างจุดบริการ/เช็คพอยต์ นักวิ่งต้องไปถึงยังจุดบริการ/เช็คพอยต์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อแจ้งการถอนตัว
นักกีฬาจะเก็บหมายเลขการแข่งขันหรือบิ๊บไว้ เพราะจะใช้เป็นบัตรผ่านสำหรับการใช้บริการรถรับส่ง (shuttle bus) อาหาร และการให้บริการต่างๆ ในจุดบริการ
การส่งตัวกลับ
- จุดบริการ/จุดเช็คพอยต์ที่จุดตัวตัว (cut-off) จะมีรถบริการเพื่อรับนักกีฬาไปยังเส้นชัย
- นักกีฬาที่ถอนตัวที่จุดบริการอื่น แต่ไม่ได้รับการบาดเจ็บหรือไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการเคลื่อนย้ายอย่างเร่งด่วน ต้องเดินทางไปยังจุดส่งกลับที่มีรถบริการที่ใกล้ที่สุดด้วยวิธีการของตนเอง
- สำหรับจุดบริการที่เข้าถึงได้โดยรถยนต์หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ
- เมื่อถึงเวลาปิดจุดบริการ ผู้จัดอาจส่งนักวิ่งที่ถอนตัวและยังคงอยู่ที่จุดบริการเพื่อกลับเส้นชัย โดยวิธีการที่สามารถทำได้
- ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ซึ่งอาจมีการยุติการแข่งขันทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้จัดจะใช้ความพยายามในเคลื่อนย้ายนักกีฬาให้เร็วเท่าที่สามารถทำได้
การตัดสิทธิ์และบทลงโทษ
มีเจ้าหน้าที่การแข่งขันอยู่ตลอดเส้นทางการแข่งขันที่รับผิดชอบในแต่ละจุดบริการและจุดควบคุมความปลอดภัย ซึ่งสามารถบังคับใช้กฎกติกาและลงโทษนักกีฬาในกรณีที่ไม่เคารพกฎ ดังตารางต่อไปนี้ :
ระยะเบตง 100 และระยะเบตง 50
ลัดเส้นทางการแข่งขัน | ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อำนวยการการแข่งขัน |
ไม่พกอุปกรณ์บังคับตามคำสั่ง (ภาชนะบรรจุน้ำขั้นต่ำ 1 ลิตร เสื้อมีฮู้ดแขนยาวกันน้ำ ผ้าห่มฉุกเฉิน ไฟส่องทาง/ไฟคาดศีรษะ โทรศัพท์มือถือ) | ตัดสิทธิ์การแข่งขันทันที |
ไม่พกอุปกรณ์บังคับอื่นตามคำสั่ง เช่น มีไฟส่องทาง/ไฟคาดศีรษะเพียง 1 อัน หมวกแก๊ป/ผ้าพันคอ นกหวีด ผ้ายืดพันเคล็ด อาหารสำรอง แก้วน้ำ | เพิ่มเวลา 1 ชั่วโมง |
ปฏิเสธการตรวจสอบอุปกรณ์บังคับ | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
ปิดโทรศัพท์มือถือ หรือใช้โหมดเครื่องบิน | เพิ่มเวลา 15 นาที |
จงใจทิ้งขยะนอกจุดที่กำหนด ทั้งโดยนักกีฬาเอง หรือสมาชิกของกลุ่มผู้ติดตามนักกีฬา | เพิ่มเวลา 1 ชั่วโมง |
ไม่เคารพผู้อื่น (ผู้จัด เจ้าหน้าที่ หรือนักกีฬาอื่น) หมายเหตุ : นักกีฬาที่มีผู้ติดตามที่แสดงความไม่สุภาพ และไม่เคารพคำแนะนำของผู้จัดจะถูกลงโทษ | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
เพิกเฉยต่อนักกีฬาที่ต้องการความช่วยเหลือ | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
รับการช่วยเหลือ นอกเหนือจากบริเวณที่อนุญาต | เพิ่มเวลา 1 ชั่วโมง |
มีผู้ติดตามในเส้นทาง นอกเหนือจากจุดให้บริการที่ระบุไว้ชัดเจน | เพิ่มเวลา 15 นาที |
ทุจริต เช่น ใช้ยานพาหนะ หรือให้ผู้อื่นใช้หมายเลขการแข่งขันหรือบิ๊บของตน | ตัดสิทธิ์การแข่งขันทันที และตลอดไป |
ไม่ติดบิ๊บให้เห็นชัดเจน | เพิ่มเวลา 15 นาที |
ติดบิ๊บไม่สอดคล้องกับที่กำหนด | เพิ่มเวลา 15 นาที (ระหว่างการแข่งขันนักกีฬา จนกว่าจะติดบิ๊บให้สอดคล้องกับที่กำหนด) |
มีทัศนคติที่อันตราย เช่น ชี้ไม้ค้ำไปที่นักกีฬาหรือผู้ชมอื่น | เพิ่มเวลา 15 นาที |
ชิปสำหรับติดตามหาย | ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการ* |
ไม่ผ่านจุดเช็คพอยต์ | ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการ* |
ปฏิเสธคำสั่งของผู้อำนวยการการแข่งขัน เจ้าหน้าที่การแข่งขัน หัวหน้าจุดบริการ แพทย์ หรือผู้ค้นหาหรือช่วยชีวิต | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
ปฏิเสธการเข้ารับการตรวจสอบสารต้องห้าม | นักกีฬาจะถูกลงโทษในลักษณะเดียวกับผู้ใช้สารกระตุ้น |
ออกจากจุดเช็คพอยต์ หลังจากเวลาตัดตัว (cut-off) ที่กำหนด | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
ไม่ติดป้ายที่กระเป๋าตามที่กำหนด | เพิ่มเวลา 1 ชั่วโมง |
ใช้ไม้ค้ำ (โพล) ซึ่งไม่ได้พกติกตัวมาตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขัน | เพิ่มเวลา 1 ชั่วโมง |
(*) คณะกรรมการการแข่งขันจะประกอบด้วย ผู้อำนวยการการจัดงาน ผู้อำนวยการการแข่งขัน และผู้อำนวยการการแพทย์ (ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์)
(**) โทษเพิ่มเวลา หมายความว่า ผู้จัดจะเพิ่มเวลาแก่นักกีฬาในระบบจับเวลาเท่ากับโทษ ถ้าพบว่านักกีฬาทำผิดกฎหลังการแข่งขัน คณะกรรมการจะพิจารณาลงโทษและเพิ่มเวลาจากเวลาที่ใช้แข่งขันแก่นักวิ่งที่พบปัญหา
บทลงโทษสำหรับการไม่เคารพอื่นๆ ในกติกาจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการ
ระยะเบตง 25
ลัดเส้นทางการแข่งขัน | ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อำนวยการการแข่งขัน |
ไม่พกอุปกรณ์บังคับตามคำสั่ง (ภาชนะบรรจุน้ำขั้นต่ำ 1 ลิตร เสื้อมีฮู้ดแขนยาวกันน้ำ โทรศัพท์มือถือ) | ตัดสิทธิ์การแข่งขันทันที |
ไม่พกอุปกรณ์บังคับอื่นตามคำสั่ง เช่น หมวกแก๊ป/ผ้าพันคอ นกหวีด ผ้ายืดพันเคล็ด อาหารสำรอง แก้วน้ำ | เพิ่มเวลา 30 นาที |
ปฏิเสธการตรวจสอบอุปกรณ์บังคับ | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
ปิดโทรศัพท์มือถือ หรือใช้โหมดเครื่องบิน | เพิ่มเวลา 10 นาที |
จงใจทิ้งขยะนอกจุดที่กำหนด ทั้งโดยนักกีฬาเอง หรือสมาชิกของกลุ่มผู้ติดตามนักกีฬา | เพิ่มเวลา 30 นาที |
ไม่เคารพผู้อื่น (ผู้จัด เจ้าหน้าที่ หรือนักกีฬาอื่น) หมายเหตุ : นักกีฬาที่มีผู้ติดตามที่แสดงความไม่สุภาพ และไม่เคารพคำแนะนำของผู้จัดจะถูกลงโทษ | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
เพิกเฉยต่อนักกีฬาที่ต้องการความช่วยเหลือ | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
รับการช่วยเหลือ นอกเหนือจากบริเวณที่อนุญาต | เพิ่มเวลา 30 นาที |
มีผู้ติดตามในเส้นทาง นอกเหนือจากจุดให้บริการที่ระบุไว้ชัดเจน | เพิ่มเวลา 10 นาที |
ทุจริต เช่น ใช้ยานพาหนะ หรือให้ผู้อื่นใช้หมายเลขการแข่งขันหรือบิ๊บของตน | ตัดสิทธิ์การแข่งขันทันที และตลอดไป |
ไม่ติดบิ๊บให้เห็นชัดเจน | เพิ่มเวลา 10 นาที |
ติดบิ๊บไม่สอดคล้องกับที่กำหนด | เพิ่มเวลา 10 นาที (ระหว่างการแข่งขันนักกีฬา จนกว่าจะติดบิ๊บให้สอดคล้องกับที่กำหนด) |
มีทัศนคติที่อันตราย เช่น ชี้ไม้ค้ำไปที่นักกีฬาหรือผู้ชมอื่น | เพิ่มเวลา 10 นาที |
ชิปสำหรับติดตามหาย | ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการ* |
ไม่ผ่านจุดเช็คพอยต์ | ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการ* |
ปฏิเสธคำสั่งของผู้อำนวยการการแข่งขัน เจ้าหน้าที่การแข่งขัน หัวหน้าจุดบริการ แพทย์ หรือผู้ค้นหาหรือช่วยชีวิต | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
ปฏิเสธการเข้ารับการตรวจสอบสารต้องห้าม | นักกีฬาจะถูกลงโทษในลักษณะเดียวกับผู้ใช้สารกระตุ้น |
ออกจากจุดเช็คพอยต์ หลังจากเวลาตัดตัว (cut-off) ที่กำหนด | ตัดสิทธิ์การแข่งขัน |
ไม่ติดป้ายที่กระเป๋าตามที่กำหนด | เพิ่มเวลา 30 นาที |
ใช้ไม้ค้ำ (โพล) ซึ่งไม่ได้พกติกตัวมาตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขัน | เพิ่มเวลา 30 นาที |
(*) คณะกรรมการการแข่งขันจะประกอบด้วย ผู้อำนวยการการจัดงาน ผู้อำนวยการการแข่งขัน และผู้อำนวยการการแพทย์ (ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์)
(**) โทษเพิ่มเวลา หมายความว่า ผู้จัดจะเพิ่มเวลาแก่นักกีฬาในระบบจับเวลาเท่ากับโทษ ถ้าพบว่านักกีฬาทำผิดกฎหลังการแข่งขัน คณะกรรมการจะพิจารณาลงโทษและเพิ่มเวลาจากเวลาที่ใช้แข่งขันแก่นักวิ่งที่พบปัญหา
การร้องเรียน
ผู้เข้าร่วมแข่งขันสามารถร้องเรียน (claim) เกี่ยวกับที่เกี่ยวกับกรณีการจัดลำดับต่างๆ ต้องทำผ่านทาง e-mail ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจบการแข่งขัน สำหรับการร้องเรียนอื่นๆ ต้องทำภาย 10 วันหลังจบการแข่งขัน
เงื่อนไขพิเศษ
ทีมผู้จัดสามารถปรับเปลี่ยนตารางการแข่งขัน เส้นทาง จุดปฐมพยาบาล จุดให้ความช่วยเหลือหรือจุดที่เกี่ยวข้องต่างๆ เมื่อมีความจำเป็น เพื่อให้กิจกรรมดำเนินไปอย่างราบรื่น
หากเกิดเหตุสุดวิสัย สภาพอากาศแปรปรวนหรือมีเหตุที่อาจจะทำให้นักกีฬาเกิดอันตราย ผู้จัดขอสวงนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงดังนี้ :
- เลื่อนเวลาเริ่มการแข่งขัน (1-2 ชั่วโมง)
- ปรับเปลี่ยนเวลาในการตัดตัวนักกีฬา (cut-off time)
- ยกเลิกงาน
- ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ..
- ยุติการแข่งขันที่กำลังดำเนินอยู่
หากการแข่งขันดังกล่าวถูกยกเลิกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และมีการตัดสินใจก่อนวันแข่งขันมากกว่า 15 วัน ผู้เข้าร่วมจะได้รับเงินลงทะเบียนคืนบางส่วน โดยจำนวนเงินที่ได้รับคืนเป็นไปตามเงื่อนไขของผู้จัด เพื่อให้บรรเทาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจนถึงวันที่ยกเลิก แต่หากการแข่งขันถูกยกเลิกก่อนวันแข่งขันน้อยกว่า 15 วันก่อน หรือเกิดเหตุระหว่างการแข่งขัน ด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะไม่มีการคืนเงินค่าลงทะเบียน
ข้อยกเว้นจากกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หากนักกีฬาไม่สามารถเข้าร่วมงานได้จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เนื่องจาก (a) การปิดประเทศหรือพรมแดน หรือห้ามเดินทางข้ามจังหวัด (b) มีข้อกำหนดในการเฝ้าระวังในสถานที่กักตัว (Quarantine) (c) มีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นบวก หรือหายจากการติดเชื้อแล้วน้อยกว่า 14 วัน* นักกีฬามีทางเลือกดังนี้:
a. ได้รับเงินค่าลงทะเบียนคืน 100%
b. เลื่อนการเข้าร่วมการแข่งขันไปยังการแข่งขัน Amazean Jungle Trail ครั้งถัดไป
* นักกีฬาต้องส่งผลการตรวจไวรัสด้วยวิธี RT PCR หรือใบรับรองแพทย์ หรือหนังสือรับรองการมีถิ่นที่อยู่
คู่มือนักกีฬา
มีคู่มือนักกีฬาซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ www.amazeanjungletrail.com/download ซึ่งรวมถึงแผนที่เส้นทางการวิ่ง และข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เช่น เวลาตัดตัว (cut-off) ตำแหน่งของจุดให้บริการ จุดความรักษาความปลอดภัย จุดเช็คพอยต์ รวมถึงบริเวณที่อนุญาตให้ผู้ติดตามสามารถเข้าช่วยเหลือนักวิ่งได้